เมนู

สูตรที่ 9



[330] 84. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มี
วิญญาณจึงเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณไม่เกิดขึ้น เพราะละวิญญาณนั้นเสีย ธรรม
ที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.
จบสูตรที่ 9

สูตรที่ 10



[331] 85. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มี
สังขตธรรมเป็นอารมณ์จึงเกิดขึ้น ไม่มีสังขตธรรมเป็นอารมณ์ไม่เกิดขึ้น
เพราะละสังขตธรรมนั้นเสีย ธรรมที่เป็นมาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วย
ประการดังนี้.
จบสนิมิตตวรรคที่ 3

สนิมิตตวรรคที่ 31



อรรถกถาสูตรที่ 1



วรรคที่ 3 สูตรที่ 1

(ข้อ 322) มีนิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สนิมิตฺตา แปลว่า มีเหตุ.
จบอรรถกถาสูตรที่ 1

อรรถกถาสูตรที่ 2 เป็นต้น (ข้อ 323-327)



แม้ในสูตรที่ 2 เป็นต้น ก็นัยนี้แหละ. ก็บททั้งหมด คือ นิทาน
เหตุ สังขาร ปัจจัย รูป เหล่านี้ เป็นไวพจน์ของ การณะ ทั้งนั้น.
จบอรรถกถาสูตรที่ 2

1. วรรคที่ 3 มี 10 สูตร เป็นสูตรสั้น ๆ จึงรวมอรรถกถาไว้ติดต่อกัน โดยลงเลขข้อสูตร
กำกับไว้ด้วย.

อรรถกถาสูตรที่ 7



ในสูตรที่ 7 (ข้อ 328) มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สเวทนา ความว่า เมื่อสัมปยุตตเวทนาที่เป็นปัจจัยนั่น
แหละมีอยู่ ธรรมที่เป็นบาปอกุศลทั้งหลายจึงเกิดขึ้น เมื่อไม่มี ก็ไม่เกิด.
จบอรรถกถาสูตรที่ 7

อรรถกถาสูตรที่ 8 - 9



แม้ในสูตรที่ 8 และสูตรที่ 9 (ข้อ 329- 330) ก็นัยนี้
แหละ.
จบอรรถกถาสูตรที่ 8 - 9

อรรถกถาสูตรที่ 10



ในสูตรที่ 10 (ข้อ 331) มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สงฺขตารมฺมณา ความว่า ธรรมที่เป็นบาปอกุศลทั้งหลาย
เกิดขึ้น เพราะกระทำสังขตธรรมที่บังเกิดขึ้นด้วยปัจจัย ให้เป็นอารมณ์.
บทว่า โน อสงฺขตารมฺมณา ความว่า แต่ธรรมที่เป็นบาปอกุศล
จะไม่เกิดขึ้น เพราะปรารภพระนิพพาน อันเป็นอสังขตะ.
บทว่า น โหนฺติ ความว่า ในขณะแห่งมรรค ธรรมที่เป็นบาป
อกุศล ชื่อว่าไม่มีอยู่ เมื่อบรรลุผลแล้ว ก็ชื่อว่ามิได้มีแล้ว. ในสูตรทั้ง
10 สูตรเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเทศนาจนถึงพระอรหัต
อย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบอรรถกถาสูตรที่ 10
จบสนิมิตตวรรคที่ 3